ท็อป 5 แห่งวงการนักจัดดอกไม้ไทยผู้เปลี่ยนดอกไม้เป็นศิลปะ

โจ้ ชยวัสส์ ปัญจภักดี ไม่ใช่นักจัดดอกไม้อย่างที่หลายคนคิดเพราะฝีมือของเขานั้นไปไกลกว่าการจัดดอกไม้ธรรมดาเสียแล้ว ถ้าจะเรียกให้ถูก เขาคือ Creative Director ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบงาน Floral Arts ให้กับงานวิวาห์ของเหล่าคนดังในวงการบันเทิงอาทิเช่น งานพิธีหมั้นของ ชมพู่-อารยา, งานวิวาห์ของ ตูน-บอดี้แสลม, ศรีริต้า เจนเซ่น และอีเวนต์ระดับประเทศมากมาย

สิ่งที่ทำให้งานของของเขาแตกต่างคือการเนรมิตความงามในจินตนาการของลูกค้าให้กลายเป็นเรื่องจริงท่ีสามารถจับต้องได้พร้อมกับความสวยสดงดงามของดอกไม้นานาพันธุ์ที่ถูกจัดเรียงอย่างปราณีตให้เข้ากับผลงานศิลปะสุดสร้างสรรค์ที่เขาได้ออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะแต่ละงาน ทำผลงานของเขาที่เสร็จสมบูรณ์แล้วนั้นเรียกได้ว่าอลังการและแฝงกลิ่นอายของความเป็นตัวเขาเองที่เป็นนักสร้างสรรค์ได้อย่างกลมกลืน โดดเด่นไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนแน่นอน 

แต่กว่าจะเดินทางขึ้นมาสู่จุดสูงสุดของวงการจัดดอกไม้แล้ว เรียกได้ว่าหนทางที่ผ่านมาของ โจ้ ชยวัสส์ นั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบซะทีเดียว แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่บ่มเพาะ ให้เขากลายเป็นมือวางอับดับหนึ่งในด้านการทำงานกับดอกไม้ไปโดยปริยาย ประสบการณ์ 40 ปีที่ผ่านมาของเขา ประกอบกับความชอบที่มีต่อดอกไม้ พรสวรรค์ในการออกแบบงานศิลปะ และการลงมือทำอย่างเอาจริงเอาจัง ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลที่ทำงานกับดอกไม้ได้อย่างน่าทึ่ง ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย อีกทั้งยังสามารถเรียกได้ว่าเขาเป็นผู้พลิกโฉมวงการจัดดอกไม้ในไทยคนแรก ๆ เลยก็ว่าได้

ปัจจุบันนี้ โจ้ Rainforest มีธุรกิจเกี่ยวกับการจัดดอกไม้และจัดอีเวนต์อีกหลายธุรกิจและเขาก็ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของเขาอย่างไม่หยุ่นหย่อน ซึ่งอีกหนึ่งผลงานเด่นของเขาที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้คือการจัดดอกไม้ด้านภูมิทัศน์หรือ การจัดสวนแบบ Landscape นั่นเอง 

ผลงานของเขานอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้เขาภายในประเทศไทยอย่างงาน RakDok Floral Weeks ที่เขาเนรมิตพื้นที่ภายในชุมชนตลาดเก่าหัวตะเข้ ให้กลายเป็นสถานที่ที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้นานาชนิด สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่เขาไปเยี่ยมชมแล้ว ฝีมือของเขายังเป็นที่จับตามองของประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น พม่า กัมพูชา ลาว และประเทศใกล้เคียงอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเขาก็ได้มีโอกาสออกแบบและควบคุมการจัดดอกไม้ให้กับงานของบุคคลสำคัญของประเทศเพื่อนบ้านมานับครั้งไม่ถ้วยแล้วเช่นกัน ถือได้ว่าเขานั้นเป็นผู้สร้างสรรค์งานศิลปะผ่านการจัดดอกไม้ที่เรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้เลยจริง ๆ   

ลำดับถัดมาก็เป็นนักจัดดอกไม้ชาวไทยที่ชื่อเสียงในการจัดดอกไม้ของเธอนั้นเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าหลายต่อหลายคนด้วยความใส่ใจในรายละเอียดและการจัดเรียงดอกไม้ที่ดูเรียบง่ายแต่โดดเด่นและสวยงามไม่เหมือนใคร

คติสำคัญในการจัดดอกไม้ของเธอคือการส่งต่อความรู้สึกของลูกค้าให้ถึงมือผู้รับ ทำให้เธอ พิถีพิถันในรายละเอียดของการจัดวางช่อดอกไม้แต่ละดอกเป็นพิเศษ ความสามารถในการจัดดอกไม้ของเธอนั้นถึงแม้จะเริ่มต้นจากสิ่งที่เธอไม่ได้หลงใหลแต่แรก แต่เธอก็ได้ค้นพบตัวเองในหนทางใหม่ที่ได้นำพาให้เธอประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักในวงการนักจัดดอกไม้อันดับต้น ๆ ของไทยเลย

อีกหนึ่งยอดฝีมือในวงการนักจัดดอกไม้ไทยต้องยกให้ พิทักษ์ หังสาจะระ ซึ่งในวงการนักจัดดอกไม้คงจะไม่มีใครไม่รู้จักเขาแน่นอน ด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ติดตัวเขามาและความชอบในศิลปะเป็นทุนเดิมทำให้เขาสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในเทคนิคการจัดดอกไม้ของเขาได้เป็นอย่างดี ทำให้เขานั้นมีโอกาสในการจัดดอกไม้ให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเมืองไทยอยู่บ่อย ๆ ฝีมือของเขานั้นเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และเขายังมีโรงเรียนสอนจัดดอกไม้เป็นของตัวเองอีกด้วย

นักจัดดอกไม้สาวไฟแรงผู้ใกล้ชิดและเติบโตมาท่ามกลางหมู่ดอกไม้และพันธุ์ไม้ธรรมชาติ ด้วยความที่เธอนั้นคลุกคลีกับธรรมชาติมาตั้งแต่เด็กทำให้เธอนั้นรู้ลึก รู้จริงเกี่ยวกับดอกไม้และต้นไม้เป็นอย่างดี ด้วยความรักที่มีต่อดอกไม้นั้นทำให้เธอศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับดอกไม้อย่างจริงจัง จนกระทั่ง Plant House ได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งเป็นร้านดอกไม้ร้านแรกที่เธอตั้งใจสร้างขึ้นมา ส่วนคอนเซ็ปต์ในการจัดดอกไม้ของเธอนั้นก็มีสไตล์ที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร เป็นการผสมผสานไอเดียของคนรุ่นใหม่และเอกลักษณ์ของดอกไม้แต่ละชนิดเข้าก้นได้เป็นอย่างดี ทำให้ทุกช่อดอกไม้ที่เธอจัดและมัดรวมออกมานั้นสามารถส่งผ่านอารมณ์และความสดใสออกมาได้เป็นอย่างดี

ท้ายสุดนี้คือตุณ ชมไพศาล ที่เป็นหนึ่งในนักจัดดอกไม้ชื่อดัง จุดเด่นของเขาคือการผสานแนวคิดเชิงศิลปะแบบจัดวางและสถาปัตย์มาเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบในการจัดดอกไม้ได้อย่างลงตัว เริ่มแรกที่เขาเริ่มต้นการจัดดอกไม้แนวนี้เพราะ ด้วยความตั้งใจที่จะฉีกกฏการจัดดอกไม้แบบเดิม ๆ เขาจึงอยากสร้างเรื่องราวในการจัดดอกไม้มากขึ้นด้วยการใช้พื้นที่เข้ามาเป็นองค์ประกอบ เพื่อช่วยเพิ่มมิติให้กับดอกไม้และสถานที่ที่เขาเลือก ทำให้ผลงานของเขานั้นดูโดดเด่นและสามารถดึงดูดความสนใจจากคนที่ผ่านไปพบเห็นผลงานของเขาได้เป็นอย่างมาก