แฟนคลับเวทีประกวดนางงาม Miss Universe หรือกองเวทีความงามไหน ๆ คงจะรู้ดีว่าช่วงตอบคำถามหน้าไมค์เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและจับตามองมาก ๆ เพราะเป็นโมเม้นต์ที่ผู้เข้าแข่งขันจะได้แสดงไหวพริบและโชว์บุคลิกของตนเองผ่านคำตอบ วันนี้ IkonClass ก็เลยอยากรวบรวม 5 โมเม้นต์การตอบคำถามที่น่าจดจำและมีความ iconic มากที่สุดมาให้ได้อ่านกัน คนที่ไม่ใช่แฟนนางงามก็อ่านได้ ไปดูกันเลย
สารบัญ
Leila Lopes จากอังกอล่า (Winner of Miss Universe 2011)
“ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายคุณได้ คุณจะเลือกเปลี่ยนอะไร”
เรียกได้ว่าเป็นคำถามที่เป็นประเด็นร้อนมาก ๆ และหลาย ๆ คนก็ตีตราให้คำถามนี้เป็นคำถามสิ้นคิดที่โฟกัสแต่ที่ความงามภายนอก และยังล้อเล่นกับความไม่มั่นใจ หรือ Insecurity ในรูปร่างหน้าตาจของคนที่ถูกถาม แต่ Leila ก็ซัดกลับด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยพลัง
“ฉันอยากขอบคุณพระเจ้า เพราะฉันรู้สึกพอใจกับสิ่งที่ฉันมีมาก ๆ พระเจ้าสร้างฉันมาแบบนี้และฉันไม่อยากจะเปลี่ยนอะไรเลยหละ ตัวฉันเองเป็นผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยความงามภายใน มีหลักการและอุดมคติที่ครอบครัวให้กับฉันมา และมันก็เป็นหลักการที่ฉันะจะยึดมั่นตลอดไปตลอดชีวิต สุดท้าย ฉันก็อยากฝากคำแนะนำให้กับทุกคน - จงเคารพกันและกัน”
คำตอบของ Leila เตือนให้เราตระหนักว่าความงามที่แท้จริงคือความงามจากภายใน และนั่นคือสิ่งที่กำหนดคุณค่าของเรา ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก
เรียกได้ว่าเป็นคำถามที่เป็นประเด็นร้อนมาก ๆ และหลาย ๆ คนก็ตีตราให้คำถามนี้เป็นคำถามสิ้นคิดที่โฟกัสแต่ที่ความงามภายนอก และยังล้อเล่นกับความไม่มั่นใจ หรือ Insecurity ในรูปร่างหน้าตาจของคนที่ถูกถาม แต่ Leila ก็ซัดกลับด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยพลัง
“ฉันอยากขอบคุณพระเจ้า เพราะฉันรู้สึกพอใจกับสิ่งที่ฉันมีมาก ๆ พระเจ้าสร้างฉันมาแบบนี้และฉันไม่อยากจะเปลี่ยนอะไรเลยหละ ตัวฉันเองเป็นผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยความงามภายใน มีหลักการและอุดมคติที่ครอบครัวให้กับฉันมา และมันก็เป็นหลักการที่ฉันะจะยึดมั่นตลอดไปตลอดชีวิต สุดท้าย ฉันก็อยากฝากคำแนะนำให้กับทุกคน - จงเคารพกันและกัน”
คำตอบของ Leila เตือนให้เราตระหนักว่าความงามที่แท้จริงคือความงามจากภายใน และนั่นคือสิ่งที่กำหนดคุณค่าของเรา ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก
Janine Tugonon จากฟิลิปปินส์ (1st Runner-up of Miss Universe 2012)
“ในฐานะทูตระหว่างประเทศ คุณคิดว่าการพูดภาษาอังกฤษได้ควรเป็นความสามารถพื้นฐานของ Miss Universe หรือไม่ เพราะอะไร ”
ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยประชากรหลายชนเผ่า ถึงแม้ภาษากลางจะเป็น Tagalog และภาษาอังกฤษ แต่ 90% ของคนฟิลิปปินส์ก็ยังใช้ภาษาท้องถิ่นของตัวเอง (ซึ่งมีมากกว่า 10 ภาษา) ที่บ้าน แน่นอนว่า Janine ก็เติบโตมากับความหลากหลายทางภาษา และคำตอบของเธอก็แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่น่าเคารพจริง ๆ
“สำหรับฉันแล้ว การเป็นมิสยูนิเวอร์สไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่จะต้องพูดภาษาใดภาษาหนึ่ง แต่มันคือการที่เราสามารถจะเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับผู้คน ตราบใดที่ใจของคุณยังอยากที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ และมีจิตที่แข็งแกร่งที่จะแสดงมันออกมา คุณก็เป็นมิสยูนิเวอร์สได้”
ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยประชากรหลายชนเผ่า ถึงแม้ภาษากลางจะเป็น Tagalog และภาษาอังกฤษ แต่ 90% ของคนฟิลิปปินส์ก็ยังใช้ภาษาท้องถิ่นของตัวเอง (ซึ่งมีมากกว่า 10 ภาษา) ที่บ้าน แน่นอนว่า Janine ก็เติบโตมากับความหลากหลายทางภาษา และคำตอบของเธอก็แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่น่าเคารพจริง ๆ
“สำหรับฉันแล้ว การเป็นมิสยูนิเวอร์สไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่จะต้องพูดภาษาใดภาษาหนึ่ง แต่มันคือการที่เราสามารถจะเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับผู้คน ตราบใดที่ใจของคุณยังอยากที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ และมีจิตที่แข็งแกร่งที่จะแสดงมันออกมา คุณก็เป็นมิสยูนิเวอร์สได้”
Sushmita Sen จากอินเดีย (Winner of Miss Universe 1994)
“สำหรับคุณแล้ว อะไรคือแก่นแท้ของการเป็นผู้หญิง”
คำถามนี้ถือเป็นคำถามที่ค่อนข้างลึกและดูเป็นปรัชญาเอามาก ๆ ซึ่ง Sushmita ก็ได้ให้คำตอบที่ เข้าใจง่าย และ empowering ผู้หญิงอย่างแท้จริง
“ฉันคิดว่าการตัวตนของเพศหญิงคือของขวัญจากพระเจ้าที่เราทุกคนควรรู้สึกยินดีที่ได้รับ แม่และผู้หญิงคือผู้ให้กำเนิด และผู้หญิงคือผู้ที่แบ่งปันความรักและแสดงให้ผู้ชายได้เห็นว่าความรัก ความเอาใจใส่และการแบ่งปันคืออะไร สำหรับฉัน นี่แหละคือแก่นแท้ของการเป็นผู้หญิง”
เช่นเดียวกับปัจจุบัน ปัญหาเรื่องสิทธิและเสรีภาพของผู้หญิงในประเทศอินเดียช่วงยุค 90s เป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างหาข้อสรุปไม่ได้ ด้วยโครงสร้างสังคมแบบปิตาธิปไตย ความเหลี่ยมล้ำทางการศึกษา อาชีพ และความรุนแรงต่อเพศหญิงจึงเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการดูแล ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้หญิงอินเดียค่อนข้างแย่ โดยเฉพาะในชนบท คำตอบของ Sushmita ทำให้เธอได้กลายเป็นผู้คว้ามงของเวทีมิสยูนิเวอร์สในปีนั้น และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงอินเดียทุกคนต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง
คำถามนี้ถือเป็นคำถามที่ค่อนข้างลึกและดูเป็นปรัชญาเอามาก ๆ ซึ่ง Sushmita ก็ได้ให้คำตอบที่ เข้าใจง่าย และ empowering ผู้หญิงอย่างแท้จริง
“ฉันคิดว่าการตัวตนของเพศหญิงคือของขวัญจากพระเจ้าที่เราทุกคนควรรู้สึกยินดีที่ได้รับ แม่และผู้หญิงคือผู้ให้กำเนิด และผู้หญิงคือผู้ที่แบ่งปันความรักและแสดงให้ผู้ชายได้เห็นว่าความรัก ความเอาใจใส่และการแบ่งปันคืออะไร สำหรับฉัน นี่แหละคือแก่นแท้ของการเป็นผู้หญิง”
เช่นเดียวกับปัจจุบัน ปัญหาเรื่องสิทธิและเสรีภาพของผู้หญิงในประเทศอินเดียช่วงยุค 90s เป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างหาข้อสรุปไม่ได้ ด้วยโครงสร้างสังคมแบบปิตาธิปไตย ความเหลี่ยมล้ำทางการศึกษา อาชีพ และความรุนแรงต่อเพศหญิงจึงเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการดูแล ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้หญิงอินเดียค่อนข้างแย่ โดยเฉพาะในชนบท คำตอบของ Sushmita ทำให้เธอได้กลายเป็นผู้คว้ามงของเวทีมิสยูนิเวอร์สในปีนั้น และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงอินเดียทุกคนต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง
Brook Mahealani Lee จากสหรัฐอเมริกา (Winner of Miss Universe 1997)
“ถ้าชีวิตของคุณไม่มีกฎหรือขอบเขตอะไรเลย แล้วคุณสามารถทำอะไรก็ได้เป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม คุณจะทำอะไร”
Brook ฟังคำถามแล้วก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย และเธอตอบแทบจะทันทีด้วยคำตอบที่ iconic และทำให้ผู้ชมหลงรักในบุคลิกและความขี้เล่นของเธอ เธอตอบว่า “ฉันจะกินทุกอย่างบนโลกใบนี้เลยค่ะ พวกคุณไม่เข้าใจหรอก ฉันจะกินทุกอย่าง 2 ครั้งเลย” คำตอบที่ง่าย ๆ แต่จริงใจประกอบกับรอยยิ้มของ Brook ทำให้เธอคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวอร์สปีนั้นไปครอง
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เราได้รู้ว่า การจะชนะใจผู้อื่นไม่ใช่การปั้นคำพูดให้สวยหรู หรือพูดในที่อยู่ในอุดมคติของทุกคน แต่เป็นการแสดงความจริงใจและทำให้ผู้คนได้รู้จักตัวตนของเราอย่างที่เราเป็น
Brook ฟังคำถามแล้วก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย และเธอตอบแทบจะทันทีด้วยคำตอบที่ iconic และทำให้ผู้ชมหลงรักในบุคลิกและความขี้เล่นของเธอ เธอตอบว่า “ฉันจะกินทุกอย่างบนโลกใบนี้เลยค่ะ พวกคุณไม่เข้าใจหรอก ฉันจะกินทุกอย่าง 2 ครั้งเลย” คำตอบที่ง่าย ๆ แต่จริงใจประกอบกับรอยยิ้มของ Brook ทำให้เธอคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวอร์สปีนั้นไปครอง
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เราได้รู้ว่า การจะชนะใจผู้อื่นไม่ใช่การปั้นคำพูดให้สวยหรู หรือพูดในที่อยู่ในอุดมคติของทุกคน แต่เป็นการแสดงความจริงใจและทำให้ผู้คนได้รู้จักตัวตนของเราอย่างที่เราเป็น
Zozibini Tunzi จากแอฟริกาใต้ (Winner of Miss Universe 2019)
“ทุกวันนี้ อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรจะสอนเด็กผู้หญิง”
เป็นคำถามชิงมงที่ค่อนข้างกว้างและน่าสนใจ ไฟนอลลิสต์สามคนสุดท้ายประกอบไปด้วย สาวสวยจาก เปอร์โตริโก เม็กซิโก และแอฟริกาใต้ ซึ่งทุกคนก็ตอบได้ดีในมุมของตัวเอง Sofia Aragon จากเม็กซิโกให้คำตอบว่าเธอคิดว่าคุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์เป็นเรื่องที่เราควรสอนเด็ก ๆ และในโลกนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบทุกด้าน Madison Anderson จากเปอร์โตริโก ตอบคล้าย ๆ กันและเน้นให้เด็กทุกคนภูมิใจและยอมรับตัวตนของตนเอง แต่ Zozobini คว้ามงไปด้วยคำตอบที่แกร่งและทรงพลังกว่าคู่แข่งของเธอ
“ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรจะสอนเด็กผู้หญิงในทุกวันนี้คือความเป็นผู้นำ เพราะมันเป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากเด็กผู้หญิงและหญิงสาวทุกคน ไม่ใช่เพราะเราไม่ต้องการเป็นผู้นำแต่เพราะสังคมสร้างขอบเขตให้เราเป็นอีกแบบหนึ่ง ฉันคิดว่าเราทุกคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในโลกและเราควรได้รับทุกโอกาสที่เป็นไปได้ และนี่แหละคือสิ่งที่เราควรจะสอนเด็กผู้หญิงทุกคน สอนให้พวกเขารู้จักทวงพื้นที่ให้ตนเอง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการมีพื้นที่ในสังคมและการแสดงตัวตนออกมา”
เป็นคำถามชิงมงที่ค่อนข้างกว้างและน่าสนใจ ไฟนอลลิสต์สามคนสุดท้ายประกอบไปด้วย สาวสวยจาก เปอร์โตริโก เม็กซิโก และแอฟริกาใต้ ซึ่งทุกคนก็ตอบได้ดีในมุมของตัวเอง Sofia Aragon จากเม็กซิโกให้คำตอบว่าเธอคิดว่าคุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์เป็นเรื่องที่เราควรสอนเด็ก ๆ และในโลกนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบทุกด้าน Madison Anderson จากเปอร์โตริโก ตอบคล้าย ๆ กันและเน้นให้เด็กทุกคนภูมิใจและยอมรับตัวตนของตนเอง แต่ Zozobini คว้ามงไปด้วยคำตอบที่แกร่งและทรงพลังกว่าคู่แข่งของเธอ
“ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรจะสอนเด็กผู้หญิงในทุกวันนี้คือความเป็นผู้นำ เพราะมันเป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากเด็กผู้หญิงและหญิงสาวทุกคน ไม่ใช่เพราะเราไม่ต้องการเป็นผู้นำแต่เพราะสังคมสร้างขอบเขตให้เราเป็นอีกแบบหนึ่ง ฉันคิดว่าเราทุกคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในโลกและเราควรได้รับทุกโอกาสที่เป็นไปได้ และนี่แหละคือสิ่งที่เราควรจะสอนเด็กผู้หญิงทุกคน สอนให้พวกเขารู้จักทวงพื้นที่ให้ตนเอง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการมีพื้นที่ในสังคมและการแสดงตัวตนออกมา”