Ikebana ศาสตร์การจัดดอกไม้โบราณของชาวญี่ปุ่น

Sep 20 / IkonClass Staff
เมื่อพูดถึงประเทศญี่ปุ่น ทุกคนคงต้องนึกเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ วัดอาราม อาหารการกิน การบันเทิง และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่รู้หรือไม่ว่าประเทศญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อในด้านของศาสตร์การจัดดอกไม้ที่เรียกว่า "Ikebana" (อ่านว่า อิเคบานะ) ในบทความนี้ IkonClass จะมาอธิบายหลักการจัดดอกไม้สไตล์ Ikebana ที่ฟลอริสทั่วโลกต่างหลงใหล
โจ้ Rainforest
เรียนศิลปะการจัดดอกไม้ กับโจ้ Rainforest

Ikebana คืออะไร ?

คำว่า "Ike" แปลว่า "มีชีวิต" ส่วน "Bana" แปลว่า "ดอกไม้" เมื่อนำมาใช้ด้วยกันแล้วสามารถแปลได้ว่า "ดอกไม้แห่งชีวิต" 

ในยุคก่อนที่ศาสนาพุทธจะถูกเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมแบบ Shinto (อ่านว่า ชินโต) ที่เชื่อและบูชาเทพเจ้ามากกว่า 1 องค์ จนกระทั่งศาสนาพุทธจากจีนได้ถูกนำมาเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้คนญี่ปุ่นเริ่มจัดดอกไม้เพื่อบูชาพระพุทธรูปและกำเนิดสำนักจัดดอกไม้สไตล์ Ikebana ที่เก่าแก่ที่สุดชื่อ Ikenobo (อ่านว่า อิเคโนโบะ) ในกรุงเกียวโต

ปรัชญาของการจัดดอกไม้แบบ Ikebana เป็นมากกว่าการนำเสนอดอกไม้ที่สวยที่สุด แต่มีความลึกซึ้งทางปรัชญาและศาสนาพุทธเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกสมาธิให้อยู่กับปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับการนำเสนอดอกไม้อย่างเป็นธรรมชาติ มุ่งเน้นไปที่ความว่างเปล่าของดอกไม้ที่โต งอกงาม และเหี่ยวเฉาไปตามกลไกของธรรมชาติ ทั้งนี้การจัดดอกไม้แบบ Ikebana ยังเน้นไปที่ความเงียบในขณะที่จัด เพื่อให้ผู้จัดได้มีสติไตร่ตรองกับสิ่งที่กำลังครุ่นคิด ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการจัดดอกไม้และปรัชญาของศาสนาพุทธ

การจัดดอกไม้แบบ Ikebana

สรุปสั้น ๆ แล้ว การจัดดอกไม้ในแบบ Ikebana จะคำนึงถึงส่วนประกอบ 3 ส่วนดังนี้
  • Shin (อ่านว่า ชิน) : เป็นกิ่งทรงตรงที่ยาวที่สุดในแจกัน เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของสวรรค์
  • Soe (อ่านว่า โซเอะ) : เป็นกิ่งที่มีความยาวปานกลาง สื่อถึงมนุษย์
  • Tai (อ่านว่า ไท) : เป็นกิ่งที่สั้นที่สุดในแจกัน สื่อถึงแผ่นดินและธรรมชาติ

สามกิ่งนี้ถูกนำมาจัดวางในแจกันใบเดียวเพื่อสื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างสวรรค์ มนุษย์ และโลกปัจจุบัน อีกทั้งการจัดดอกไม้แบบ Ikebana จะไม่เน้นการใช้ดอกไม้ที่เยอะ แต่เป็นการใช้ดอกไม้เพียงชนิดเดียวหรือไม่เกิน 3-4 ชนิด เน้นไปที่ความสวยอย่างธรรมชาติของดอกไม้ชนิดนั้น ๆ ซึ่งจะแตกแต่งจากการจัดดอกไม้แบบชาวตะวันตกที่เน้นดอกไม้จำนวนเยอะและสีสันสดใส

นอกจากนี้แล้ว Ikebana ยังถูกแบ่งประเภทไปตามขนาดของแจกันอีกด้วย โดยมี 2 ประเภทหลักดังนี้

Heika

Heika (อ่านว่า ไฮกะ) เป็นการจัดดอกไม้ในแจกันทรงสูงที่มีปากแจกันแคบ ซึ่งจะถูกแตกแขนงไปอีกเป็น Rikka (อ่านว่า ริกกะ การจัดดอกไม้ตั้งตรง) Seika (อ่านว่า ไซกะ การจัดดอกไม้ให้ดูเป็นธรรมชาติเสมือนอยู่บนต้น) โดยพื้นฐานแล้ว การจัดดอกไม้แบบ Heika จะมีดังนี้ :
  • แจกันจะต้องประกอบไปด้วย ดอกฐาน ดอกช่วงกลาง และดอกยอดที่สูงสุด
  • ดอกฐานควรจะเอียงไปข้างหน้า 70 องศาในแนวดิ่ง พร้อมกับอีกดอกฐานที่เอียงออกด้านข้าง 45 องศาในแนวนอน
  • ดอกช่วงกลางจะถูกเสียบไว้ที่ด้านหลังของดอกฐาน
  • ดอกยอดสูงสุดจะถูกเสียบไว้ตรงกึ่งกลางของแจกัน

Moribana

ต่างจาก Heika การจัดดอกไม้แบบ Moribana (อ่านว่า โมริบานะ) เป็นการจัดในภาชนะทรงเตี้ยที่มีปากกว้าง โดยใช้ก้าน ดอก และใบในจำนวนน้อยนำมาจัดวางในภาชนะทรงเตี้ย พื้นฐานของการจัดดอกไม้สไตล์ Moribana มีดังนี้ :
  • เลือกดอกฐานที่มีองศาเอียงดิ่ง จัดวางให้เอียงออกซ้ายหรือขวาก็ได้
  • จัดดอกช่วงกลางโน้มมาข้างหน้าประมาณ 30 องศา
  • สำหรับดอกยอด ให้ใช้ดอกไม้ที่มีทรงโน้มเอียง 60 องศาและจัดวางให้เอียงไปคนละทางกับดอกฐาน

โจ้ Rainforest

เรียนรู้เทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานด้วยดอกไม้และศิลปะ
โจ้ Rainforest

บทส่งท้าย

เพียงแค่คุณเข้าใจปรัชญาและองศาของ Ikebana คุณก็สามารถจัดดดอกไม้แบบ Ikebana ได้ไม่ว่าคุณจะมีดอกไม้ชนิดใดก็ตาม สำหรับใครที่ต้องการไอเดียการจัดดอกไม้ใหม่ ๆ แล้วล่ะก็ ห้ามพลาดคลาสสอนจัดดอกไม้กับฟลอริสมือ 1 ของไทย โจ้ Rainforest ที่ IkonClass

บทความล่าสุด

คอร์สเรียนของเรา