ในสายงานอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ คุณจะได้มีโอกาสสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ติดตาม ได้แบ่งปันความรู้ แบ่งปันความชอบ และที่สำคัญก็คือโอกาสในการสร้างรายได้ เพราะฉะนั้นแล้ว การเป็นอินฟลูเอนเซอร์จะต้องทำยังไงบ้าง ? เราไปดูกัน
การเป็นอินฟลูเอนเซอร์จะต้องมีเป้าหมายและตัวตนที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น เป้าหมายของคุณอาจจะเป็นการได้ร่วมงานกับแบรนด์ในฝัน การสร้างรายได้ การสร้างคอมมูนิตี้ ฯลฯ หลังจากนั้นให้เขียนสรุปออกมาว่าคุณต้องการจะสร้างคอนเทนต์แบบไหน หัวข้ออะไร เช่น เทคโนโลยี ไลฟสไตล์ การกิน การท่องเที่ยว ความงาม และให้นึกถึงช่องทางการสร้างรายได้ไม่ว่าจะเป็นการสปอนเซอร์ การใช้ Affiliate marketing หรืออื่น ๆ อีกหนึ่งปัจจัยหลักก็คือ “รูปลักษณ์” ของคุณ เช่น คุณต้องการให้ผู้สนับสนุนมองว่าคุณเป็นคนนิสัยอย่างไร มีไลฟสไตล์แบบไหน มีมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ ยังไง คิดเสียว่าการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ก็เหมือนการสร้าง “แบรนด์” ขึ้นมานั่นเอง
ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จในการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ คุณจะต้องมี “จุดขาย” ที่แตกต่างจากคนอื่น :
- นึกถึงสิ่งที่คุณชอบทำและสิ่งที่คุณทำได้ดีกว่าคนทั่วไป เช่น ทักษะการทำอาหาร ทักษะถ่ายรูป ทักษะการเล่นเกม ทักษะการกีฬา ทักษะการร้องเพลง ฯลฯ
- ศึกษาอินฟลูเอนเซอร์ที่คุณชื่นชอบ ว่าเขาใช้สื่อช่องทางไหนและสร้างคอนเทนต์อะไร จากนั้นให้ลองนึกถึงสิ่งที่คุณคิดว่าขาดหายไปจากคอนเทนต์ของเขา และพยายามเติมเต็มในสิ่งนั้นภายในคอนเทนต์ของตัวเอง
- นึกถึงเกร็ดความรู้ มุมมอง หรือผลิตภัณฑ์ที่คุณคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น
อีกสิ่งสำคัญของการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ คือการทำความเข้าใจกลุ่มคนดูและการตั้งเป้าหมายกลุ่มคนดู เช่น :
- กำหนดเป้าหมายของกลุ่มคนดู เช่น วัยอายุ ตำแหน่งที่ตั้ง รายได้ สายอาชีพ ความเชื่อส่วนบุคคล กิจวัตรประจำวัน
- ศึกษาหารูปแบบคอนเทนต์ที่ผู้ติดตามหรือคนดูมีส่วนร่วมมากที่สุด
- ศึกษาหาข้อสงสัยหรืออุปสรรคที่คนดูกำลังเผชิญ และสร้างคอนเทนต์ด้วยการนำเสนอ “ทางออก” ให้กับปัญหาต่าง ๆ
ในปัจจุบัน ช่องทางสื่อ Social media นั้นมีหลากหลายจนตามแทบไม่ทัน ถึงแม้ว่าการโพสต์ในทุกช่องทางอาจจะเป็นความคิดที่ดี แต่ก็ควรรู้ไว้ว่าแต่ละช่องทางมีกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงรูปแบบของคอนเทนต์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น :
- Facebook : เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเยอะที่สุด เหมาะกับการสร้างคอมมูนิตี้ด้วย “เพจ” ให้ผู้ติดตามทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ติดตาม
- TikTok / Instagram : เน้นการใช้รูปภาพและวิดีโอในการสื่อสาร เหมาะสำหรับคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับแฟชั่น อาหาร การท่องเที่ยว การออกกำลังกาย การเต้น ฯลฯ ซึ่ง TikTok อาจจะเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคนรุ่น Gen-Z และคนรุ่นใหม่ เพราะด้วยการเข้าถึงคอนเทนต์ที่รวดเร็วและง่าย
- YouTube : เหมาะสำหรับคอนเทนต์ที่ต้องมีการอธิบาย การรีวิว หรือการสอนใช้และสอนทำอะไรบางอย่างที่มีรายละเอียด
- Twitch / Facebook live / YouTube live / Kick : เป็นแพลตฟอร์มการถ่ายทอดสด เหมาะสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องการมีส่วนร่วมกับผู้ชมในเวลาจริง ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกใกล้ชิดกับอินฟลูเอนเซอร์มากกว่าช่องทางอื่น ๆ
เพื่อเป็นการดึงดูดผู้ติดตาม การสร้างคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะมันแสดงให้เห็นว่าอินฟลูเอนเซอร์ให้ความสำคัญกับผู้ชมและต้องการที่จะแบ่งปันอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นอินฟลูเอนเซอร์จะต้องศึกษาเวลาที่คนเข้าใช้ Social media มากที่สุดและโพสต์คอนเทนต์ในช่วงเวลานั้น หรืออีกอย่างที่สามารถทำได้ก็คือการสร้างตารางงานในการคิดคอนเทนต์ ทำคอนเทนต์ และเผยแพร่คอนเทนต์ โดยทำให้เป็นกิจวัตรของแต่ละวันหรืออาทิตย์
เมื่อคุณมีผู้ติดตามแล้ว สิ่งที่ต้องนอกเหนือจากการสร้างคอนเทนต์ก็คือการมีส่วนร่วมกับผู้ติดตาม เช่น :
-
ตอบคำถามของผู้ชมภายใต้คอมเม้นต์
- สร้างโพลโหวตให้ผู้ติดตามช่วยเลือกอะไรบางอย่าง เช่น แนวทางคอนเทนต์ ผลิตภัณฑ์ที่อยากเห็น ฯลฯ
- ถ่ายทอดสด
- การแจ้งคอนเทนต์ใหม่ด้วยการโพสต์รายละเอียดคร่าว ๆ หรือการโพสต์ Highlight จากคอนเทนต์ใหม่
- การใช้ X (Twitter) หรือ Facebook ในการพูดคุยกับผู้ติดตามในขณะที่ไม่ได้โพสต์คอนเทนต์ใหม่
อินฟลูเอนเซอร์มือใหม่จะต้องพัฒนาทักษะต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้คอนเทนต์มีความน่าสนใจและน่าดู ไม่มีกฎตายตัวว่าจะต้องเรียนอะไรเพิ่มเติม แต่โดยรวมแล้ว อินฟลูเอนเซอร์ควระจะมีทักษะดังกล่าว :
- การใช้โปรแกรมตัดต่อรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอ แต่งรูป เช่น Adobe Photoshop, Lightroom, Premiere Pro หรือการใช้เครื่องมือสร้างกราฟฟิคสำหรับการโพสต์อย่าง Canva
- ทักษะการถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ การจัดองค์ประกอบรูปภาพ
- ทักษะการค้นหาข้อมูลเทรนด์ หาข้อมูลสำหรับคอนเทนต์ ทักษะในด้าน Search Engine Optimization (SEO)
- ทักษะการสื่อสาร เช่น การเขียนบทพูด การจัดเรียงคอนเทนต์ให้เข้าใจง่าย การพูด การเขียนโพสต์ให้อ่านง่ายและได้ใจความ