นอกจากการประกวด Miss Universe นางงามจักรวาลแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเวทีที่นางงามจากทั่วมุมโลกต่างให้ความสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือ Miss Grand International (มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล) นั่นเอง แล้วเวทีมิสแกรนด์ต่างจาก Miss Universe ยังไง ? ผู้เข้าประกวดต้องมีคุณสมบัติอะไร ? IkonClass มีคำตอบให้ในบทความนี้
สารบัญ
ที่มาของ Miss Grand International
มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล (เรียกสั้น ๆ ว่ามิสแกรนด์) เป็นเวทีประกวดความงามที่ถูกก่อตั้งโดยคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นนักธุรกิจชาวไทยและผู้ผลิตรายการโทรทัศน์
การประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนลครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2013 พร้อมกับแคมเปญ “Stop the War and Violence” เพื่อหยุดความรุนแรงและภัยทางสงคราม เพราะทางองค์กร Miss Grand International (MGI) เชื่อว่าการหยุดความรุนแรงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างอนาคตที่ปลอดภัยและน่าเป็นอยู่สำหรับคนรุ่นหลัง
การประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนลครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2013 พร้อมกับแคมเปญ “Stop the War and Violence” เพื่อหยุดความรุนแรงและภัยทางสงคราม เพราะทางองค์กร Miss Grand International (MGI) เชื่อว่าการหยุดความรุนแรงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างอนาคตที่ปลอดภัยและน่าเป็นอยู่สำหรับคนรุ่นหลัง
คุณสมบัติของนางงามมิสแกรนด์
แต่ละประเทศจะสามารถส่งตัวแทนได้มากสุด 1 คนเพื่อเข้าร่วมการประกวด Miss Grand International โดยที่ตัวแทนจะถูกคัดเลือกผ่านผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Grand International ของประเทศนั้น ๆ ซึ่งตัวแทนก็จะมีชื่อเรียกว่า “มิสแกรนด์” ตามด้วยชื่อประเทศของตนเอง เช่น Miss Grand Thailand, Miss Grand USA หรือ Miss Grand Brazil เป็นต้น
ในส่วนของการประกวด Miss Grand International ทางองค์กรจะยึดหลัก 3B’s: Body, Beauty, Brain ในการตัดสินผู้เข้าชิง ทางองค์กรเชื่อว่านางงามมิสแกรนด์จะต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลใส่ใจรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย จนไปทักษะการแสดงและทักษะการสื่อสารที่ดีเยี่ยม
ในส่วนของการประกวด Miss Grand International ทางองค์กรจะยึดหลัก 3B’s: Body, Beauty, Brain ในการตัดสินผู้เข้าชิง ทางองค์กรเชื่อว่านางงามมิสแกรนด์จะต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลใส่ใจรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย จนไปทักษะการแสดงและทักษะการสื่อสารที่ดีเยี่ยม
การคัดเลือกมิสแกรนด์
กิจกรรมในการประกวดก่อนรอบชิงชนะเลิศจะประกอบไปด้วยการประกวดชุดว่ายน้ำและชุดกีฬา การประกวดชุดประจำชาติ และการประกวดรอบ Preliminary ที่ผู้เข้าประกวดจะเดินประกวดทั้งในชุดว่ายน้ำและชุดราตรีต่อหน้าคณะกรรมการบนเวที และหลังจากรอบ Preliminary จะมีเพียงแค่ 20 คนที่ถูกเลือกให้ไปต่อในรอบ Grand Final ผ่านการคัดเลือกจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ การสัมภาษณ์แบบปิดกับคณะกรรมการ และการประกวดในรอบ Preliminary
หลังจากนั้น ผู้เข้าชิงจะต้องทำการประกวดการเดินในชุดว่ายน้ำ และสำหรับนางงามที่ได้ Miss Popular Vote ก็จะได้เข้ารอบไปอยู่ในรายชื่อ 10 คนสุดท้ายโดยอัตโนมัติ
ในการแข่งขันรอบ 10 คนสุดท้าย ผู้เข้าประกวดจะต้องจัดเตรียมและกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “Stop the War and Violence” ตามแคมเปญหลักขององค์กร Miss Grand International และในรอบ 5 คนสุดท้าย นางงามจะเข้าสู่รอบการตอมคำถามกับคณะกรรมการบนเวที โดยที่หัวข้อจะเกี่ยวกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน และท้ายที่สุด ทางกรรมการก็จะตัดสินผู้ชนะจากองค์ประกอบโดยรวมของผู้เข้าประกวด โดยที่กรรมการจะวิเคราะห์ผลงานตั้งแต่กิจกรรมรอบแรกจนไปถึงการตอบคำถามในรอบสุดท้าย
หลังจากนั้น ผู้เข้าชิงจะต้องทำการประกวดการเดินในชุดว่ายน้ำ และสำหรับนางงามที่ได้ Miss Popular Vote ก็จะได้เข้ารอบไปอยู่ในรายชื่อ 10 คนสุดท้ายโดยอัตโนมัติ
ในการแข่งขันรอบ 10 คนสุดท้าย ผู้เข้าประกวดจะต้องจัดเตรียมและกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “Stop the War and Violence” ตามแคมเปญหลักขององค์กร Miss Grand International และในรอบ 5 คนสุดท้าย นางงามจะเข้าสู่รอบการตอมคำถามกับคณะกรรมการบนเวที โดยที่หัวข้อจะเกี่ยวกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน และท้ายที่สุด ทางกรรมการก็จะตัดสินผู้ชนะจากองค์ประกอบโดยรวมของผู้เข้าประกวด โดยที่กรรมการจะวิเคราะห์ผลงานตั้งแต่กิจกรรมรอบแรกจนไปถึงการตอบคำถามในรอบสุดท้าย
หน้าที่ของมิสแกรนด์
การได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์นั้นมาพร้อมกับชื่อเสียงและเงินรางวัลมหาศาล (40,000 ดอลลาร์สหรัฐ) แต่ทว่าอภิสิทธิ์นี้ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน เพราะนางงามที่ได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์จะต้องย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นเวลา 1 ปีเพื่อทำภารกิจต่าง ๆ ตามที่องค์กร MGI ได้กำหนดไว้ภายใต้แคมเปญ “Stop the War and Violence”