การใช้ Mood and Tone เสกภาพถ่ายให้สวยสะดุดตา

Oct 24 / IkonClass Staff
ภาพถ่ายที่ดีคือหนึ่งในสิ่งที่สามารถส่งข้อความที่เราต้องการจะสื่อสารออกไปได้ เป้าหมายคือทำให้คนที่ดูภาพของเราได้เข้าใจถึงเรื่องราว อารมณ์และความรู้สึกที่ต้องการจะสื่อสารออกไป การใช้ Mood and Tone เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่างภาพมือสมัครเล่นและมืออาชีพสามารถนำมาใช้ในภาพถ่ายได้ เพื่อสร้างเสริมองค์ประกอบความสวยงามของภาพ ช่วยเล่าเรื่องและทำให้ภาพถ่ายมีเรื่องราวมากขึ้น
วันนี้ IkonClass รวบรวมข้อมูลและเทคนิคการใช้ Mood and Tone สำหรับภาพถ่ายมาฝากทุกคนกัน เผื่อจะนำไปปรับใช้ พัฒนางานภาพให้ออกมาสวยกินใจ พร้อมสื่ออารมณ์และความหมายได้ชัดเจนและโดดเด่นมากยิ่งขึ้
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่
เรียนกับช่างภาพแฟชั่นมือ 1 ของประเทศไทย

Mood and Tone คืออะไร?

Mood and Tone ในภาพถ่ายแบบต่าง ๆ
Mood and Tone เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการออกแบบ แฟชั่น ภาพยนตร์ การเขียน ตลอดจนไปถึงการถ่ายรูป ในส่วนของ Mood and Tone สำหรับวงการถ่ายภาพแฟชั่นโดยเฉพาะนั้นคือการสร้างคอนเซ็ปต์ของงานด้วยการใช้สี แสง และองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้สึกและควบคุมอารมณ์ของภาพโดยรวม เพราะ Mood คือ อารมณ์ และ Tone คือ สีที่ใช้ ซึ่งหลักการนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับวัตถุประสงค์ที่เราต้องการจะใช้ หรือให้เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการจะสื่อความหมายในภาพถ่ายแต่ละเซ็ตก็ได้เช่นกัน

นอกจากเรื่องของการเล่าเรื่องแล้ว การกำหนด Mood and Tone ให้กับงานภาพถ่ายนั้นยังช่วยให้เราสามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งคำว่า Mood หมายถึงอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นความสนุก สงบ เศร้า ร่าเริงหรืออื่น ๆ ส่วนคำว่า  Tone หมายถึงสีหลักในงาน ซึ่งจะป็นตัวกำหนดอารมณ์ เช่น ภาพโทนสีฟ้า จะทำให้ดูมีความสงบ เย็นสบาย หรือเศร้า ภาพสีเหลืองจะดูสดใส ร่าเริง เป็นต้น เพราะฉะนั้นหากเราเลือก Mood and Tone ให้กับภาพถ่ายของเราได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้ภาพถ่ายของเรานั้นมีความน่าสนใจและมีความหมายมากกว่าเพียงภาพถ่ายธรรมดาอย่างแน่นอน 

Mood and Tone มีอะไรบ้าง

เมื่อรู้ความหมายของ Mood and Tone ไปแล้ว ก็ลองมาทำความรู้จักกับเหล่า Mood and Tone ที่มักจะถูกหยิบยกมาใช้บ่อย ๆ ในงานหลากหลายชนิด ซึ่งสื่อถึงอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น

  • ความโกรธ​: สำหรับงานที่อยากแสดงออกถึงความโกรธ มักจะเลือกใช้สีแดงเป็นหลัก เพราะเป็นสีที่ดึงดูดสายตาและแสดงถึงความก้าวร้าว ความร้อนแรง ความกล้าหาญ ตื่นเต้นได้ดี
  • ความเงียบสงบ: หากต้องการสื่อถึงบรรยากาศที่เงียบสงบในงาน ก็สามารถเลือกใช้ได้หลายสีขึ้นอยู่กับคอนเซ็ปต์ของงาน เช่นสีม่วง สีน้ำเงิน หรือสีเทา ที่ทำให้ภาพรวมดูมีความสงบนิ่งมากขึ้น
  • ความอ่อนโยน: สำหรับงานที่อยากให้ออกมาดูมีความอ่อนโยน น่าสัมผัส มักจะเน้นการใช้สีขาว หรือสีโทนอ่อนเป็นหลัก
  • ความเศร้า: ในงานที่เน้นไปถึงความโศกเศร้าหรือความมืดบอด มักจะเลือกใช้สีเข้มอย่างเช่นสีดำ สีเทาเข้ม ซึ่งนอกจากจะแสดงถึงความเศร้าแล้ว หลาย ๆ ครั้งก็ถูกนำไปใช้กับงานที่ต้องการสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน

การกำหนด Mood and Tone ในภาพถ่ายด้วย Moodboard

การทำ Mood Board
หลังจากที่ได้รู้แล้วว่า Mood and Tone คืออะไร และมีอะไรบ้างนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่จะสามารถช่วยให้คุณทำงานกับ Mood and Tone ในภาพถ่ายคุณง่ายขึ้น นั่นก็คือการทำ Moodboard หรือมู้ดบอร์ดนั่นเอง ซึ่ง Moodboard คือกระดาน หรือพรีเซนเทชั่น ที่รวบรวมเอาไอเดีย แนวทาง โทนสี บรรยากาศ และอารมณ์ที่คุณชอบเพื่อให้คุณเห็นภาพของชิ้นงานได้ชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้แล้วการทำ Moodboard ยังทำให้คุณสามารถทำงานกับทีมได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะจะทำให้ทีมเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า Mood and Tone ของภาพถ่ายนั้น ๆ จะมีลักษณะหรือทิศทางการเล่าเรื่องอย่างไร อีกทั้งคุณยังสามารถนำมาปรับใช้ในการถ่ายภาพสำหรับช่องทางโชเซียลมีเดียส่วนตัวของคุณได้อีกด้วย

ภาพโทนร้อนและโทนเย็นตัวช่วยกำหนด Mood and Tone ของภาพ

สำหรับการทำงานศิลปะ สีต่าง ๆ นั้นมีส่วนเป็นอย่างมากในการช่วยกำหนดอารมณ์และความรู้สึกของภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานภาพศิลปะ งานวาดภาพ งานออกแบบ ตลอดจนไปถึงงานภาพถ่าย ดังนั้นนอกจากเรื่องของการทำ Moodboard (หรือ Mood board จะเขียนรวบหรือแยกเป็นสองคำก็แล้วแต่ดิกชันนารีที่อ้างอิง) แล้ว การทำความรู้จักกับโทนสีของภาพอย่างภาพโทนร้อน ภาพโทนเย็นเองก็สำคัญเช่นกัน 

โดยภาพโทนร้อนและภาพโทนเย็นนั้นมีความแตกต่างกันอย่างชิ้นเชิงทั้งในส่วนของทฤษฎีสี และการบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ต้องการจะสื่อออกไป โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ความแตกต่างของสีโทนร้อนและสีโทนเย็น
 : ในทางทฤฎีสี สีโทนร้อนและโทนเย็นนั้นอยู่ตรงข้ามกัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจึงทำให้เกิดอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป
  • ความหมายของสีโทนร้อน : สีโทนร้อนหลัก ๆ นั้นจะเป็นสีแดง ส้มและสีเหลือง โดยมักจะใช้สื่อถึงความรวดเร็ว กระฉับกระเฉง ความรุนแรง ความสุขความ
  • ความหมายของสีโทนเย็น : สีโทนเย็นนั้นหลัก ๆ จะประกอบไปด้วยสีเขียว น้ำเงินและม่วง ซึ่งสื่อถึงความหนักแน่น ความสุขุม ความเศร้า จนไปถึงความลึกลับ

สร้าง Mood and Tone ของภาพถ่ายด้วยสีโทนร้อน

Mood and Tone ภาพถ่ายสดใส
การสร้างอารมณ์สำหรับภาพโทนร้อนนั้นมักจะประกอบไปด้วยสีที่มีความฉูดฉาด ร้อนแรง โดยองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้คุณรู้สึกสดใสและมีความกระตือรือร้น นอกจากนี้แล้วสีโทนร้อนนั้นยังให้ความรู้สึกรุนแรง อบอุ่น รวมทั้งยังเป็นสีที่แสดงถึงอำนาจและมีกำลังด้วยเช่นกัน 
หากคุณต้องการถ่ายภาพที่มีความสดใส น่ารักและดูอบอุ่นเป็นกันเอง คุณสามารถเลือกใช้สถานที่ที่มีสีโทนร้อนเป็นหลักในการถ่ายภาพได้ หรือเน้นการใช้แสงธรรมชาติที่มีโทนอุ่น เป็นสีเหลืองอ่อน ๆ เพื่อทำให้ภาพดูเป็นมิตรมากขึ้น หรืออาจจะให้ตัวแบบสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส เป็นสีโทนร้อนก็ได้เช่นกัน
นอกจากจะภาพโทนร้อนนั้นจะดูสดใสร่าเริงแล้ว ถ้าหากคุณต้องการทำให้ภาพถ่ายมีความเซ็กซี่ ดูร้อนแรง ก็สามารถเลือกใช้สีโทนร้อนที่มีความเข้มได้ เช่นสีแดงเข้ม ที่แสดงถึงความร้อนแรง และความเซ็กซี่

สร้าง Mood and Tone ของภาพถ่ายด้วยสีโทนเย็น

นอกจากภาพโทนร้อนที่แสดงถึงความสดใส ความร้อนแรงแล้ว ก็จะมีภาพโทนเย็นที่แสดงถึงความรู้สึกที่ตรงข้ามเช่นกัน สำหรับการใช้อารมณ์ของภาพเป็นสีโทนเย็นนั้นจะแตกต่างจากโทนร้อนอย่างสิ้นเชิง เพราะสีโทนเย็นนั้นจะให้ความรู้สึกที่ร่มเย็น มีความสงบนิ่ง ให้อารมณ์ที่เรียบง่าย และหนักแน่นมากกว่าภาพโทนร้อน หลาย ๆ ครั้งภาพโทนเย็นนั้นก็ยังถูกนำมาใช้ในอารมณ์ที่แสดงถึงความเศร้า มืดหม่นและเย็นชา และภาพโทนเย็นนั้นประกอบด้วย สีฟ้า สีน้ำเงินและสีเขียว
หากคุณต้องการถ่ายภาพที่แสดงให้ถึงความทรงพลัง ความหนักแน่น คุณก็สามารถเลือกใช้พื้นหลังหรือองค์ประกอบหลักต่าง ๆ เป็นสีโทนเย็นได้ เช่น สีดำ สีน้ำเงินเข้ม สีเทาเข้มเป็นต้น ถ้าหากอยากทำให้ภาพถ่ายมีความลึกลับ ก็สามารถจัดฉากถ่ายภาพเป็นโทนเย็นโดยใช้สีม่วง เพื่อเพิ่มความน่าลึกลับได้เช่นกัน 

เทคนิคง่าย ๆ ในการคิด Mood and Tone ให้เข้ากับงาน

Mood and Tone ทะเล
ในแต่ละงานย่อมมีอารมณ์ที่อยากจะสื่อสารแตกต่างกันไป นอกจากการใช้ภาพโทนร้อนละเย็นแล้ว หากคุณต้องการที่จะสื่อสาร Mood and Tone ในแบบของคุณ สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือ เรื่องที่คุณอยากจะเล่าออกมาเป็นภาพ สีที่ต้องการใช้สื่อสาร และการวางองค์ประกอบภาพที่เหมาะสมกับเรื่องราวนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวแบบ สถานที่ แสงไฟ หรือการแสดงสีหน้าต่าง ๆ ของตัวแบบ เช่น ถ้าคุณต้องการถ่ายภาพหญิงสาวที่มีความสุข ก็ต้องเป็นการเล่นสีโทนร้อนเพื่อให้ภาพดูมีชีวิตชีวามาก ๆ และนอกจากนั้นยังดูมีความอบอุ่นของแสงแดดทำให้การสื่อสารชัดเจนมากขึ้นว่าตัวแบบกำลังมีความสุขอยู่ หรือขั้วตรงข้ามอย่างสีโทนเย็น จะทำให้รู้สึกสงบนิ่ง เย็นชา การสื่อสารทางอารมณ์ก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนละแบบ

ณัฐ ประกอบสันติสุข
สอนการถ่ายภาพแฟชั่น

เรียนรู้ทุกเคล็ดลับและเทคนิคจากช่างภาพแฟชั่นอันดับ 1
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่
เป็นอย่างไรบ้างกับบทความนี้ที่ IkonClass ได้นำมาให้คุณได้อ่านกัน? เมื่ออ่านจบแล้วหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพและลองฝึกปรับแต่งสีให้ได้ตามที่ต้องการเลย และคุณยังสามารถกลับไปอ่านบทความต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ด้วย

สำหรับคนไหนที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับ Mood and Tone และการถ่ายภาพเพื่มเติม IkonClass ขอนำเสนอ คลาสเรียนถ่ายภาพออนไลน์ที่สอนโดย ณัฐ ประกอบสันติสุข ช่างภาพแฟชั่นอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่จะมาแชร์ประสบการณ์และแนะนำเทคนิคการถ่ายภาพแฟชั่นเพื่อให้ทุกคนได้มาเรียนรู้เคล็ดลับการถ่ายภาพอย่างมือโปรกัน ลงทะเบียนแล้วเริ่มต้นเรียนบทเรียนแรกได้เลย ฟรี!

บทความล่าสุด

คอร์สเรียนของเรา