สารบัญ
ประวัติ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน
ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) นักเขียนและนักกวีชาวเดนมาร์กชื่อดังผู้หนึ่งที่มีผลงานที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์วรรณกรรมโลก เขาเกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1805 ในชุมชนแออัดของเมืองโอเดนเซ เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1875
ว่ากันว่า ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซนเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจนและด้วยรูปลักษณ์ที่ผอมเก้งก้าง และหน้าตาไม่ดี เขามักถูกเพื่อน ๆ กลั่นแกล้งเป็นประจำ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาชอบเก็บตัวอยู่ในกับโลกจินตนาการมากกว่าโลกแห่งความจริง เมื่ออายุ 14 ปี แอนเดอร์เซนออกเดินไปยังกรุงโคเปนเฮเกนด้วยเงินติดตัวเพียงน้อยนิดด้วยความฝันที่อยากจะเข้าร่วมเป็นนักแสดงในโรงละครแห่งหนึ่ง แต่ว่างเพราะด้วยรูปลักษณ์และเสียงที่กำลังแตกหนุ่ม โรงละครปฏิเสธเขา แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเมื่อเขาได้พบกับผู้ใหญ่ใจดียื่นมือมาสนับสนุนเขาให้ได้เรียนปริญญาตรี เขาเริ่มเขียนหนังสือของตัวเองแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับทีดีนัก นอกจากนี้ตัวเขาเองก็ไใ่เคยมีหวังเรื่องความรักเลย
ตลอดชีวิตของเอนเดอร์เซน เขาแต่งนิทานไปกว่า 168 เรื่อง และหลายเรื่องก็กลายมาเป็นนิทานคลาสสิกที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก อาทิ เช่น "The Little Mermaid" (เงือกน้อย), "The Ugly Duckling" (ลูกเป็ดขี้เหร่), "The Emperor's New Clothes" (ชุดใหม่ของพระราชา) , "The Snow Queen" (ราชินีหิมะ), และ "The Princess and the Pea" (เจ้าหญิงกับเมล็ดถั่ว) โดยเขานำเอาความเศร้าและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเขามาแต่งให้เป็นเรื่องราวที่แฝงข้อคิดและคุณธรรม เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้ถึงความสำคัญของการมอบความรักและเอื้ออาทรให้แก่เพื่อนมนุษย์และผู้ที่ด้อยกว่า
ว่ากันว่า ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซนเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจนและด้วยรูปลักษณ์ที่ผอมเก้งก้าง และหน้าตาไม่ดี เขามักถูกเพื่อน ๆ กลั่นแกล้งเป็นประจำ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาชอบเก็บตัวอยู่ในกับโลกจินตนาการมากกว่าโลกแห่งความจริง เมื่ออายุ 14 ปี แอนเดอร์เซนออกเดินไปยังกรุงโคเปนเฮเกนด้วยเงินติดตัวเพียงน้อยนิดด้วยความฝันที่อยากจะเข้าร่วมเป็นนักแสดงในโรงละครแห่งหนึ่ง แต่ว่างเพราะด้วยรูปลักษณ์และเสียงที่กำลังแตกหนุ่ม โรงละครปฏิเสธเขา แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเมื่อเขาได้พบกับผู้ใหญ่ใจดียื่นมือมาสนับสนุนเขาให้ได้เรียนปริญญาตรี เขาเริ่มเขียนหนังสือของตัวเองแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับทีดีนัก นอกจากนี้ตัวเขาเองก็ไใ่เคยมีหวังเรื่องความรักเลย
ตลอดชีวิตของเอนเดอร์เซน เขาแต่งนิทานไปกว่า 168 เรื่อง และหลายเรื่องก็กลายมาเป็นนิทานคลาสสิกที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก อาทิ เช่น "The Little Mermaid" (เงือกน้อย), "The Ugly Duckling" (ลูกเป็ดขี้เหร่), "The Emperor's New Clothes" (ชุดใหม่ของพระราชา) , "The Snow Queen" (ราชินีหิมะ), และ "The Princess and the Pea" (เจ้าหญิงกับเมล็ดถั่ว) โดยเขานำเอาความเศร้าและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเขามาแต่งให้เป็นเรื่องราวที่แฝงข้อคิดและคุณธรรม เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้ถึงความสำคัญของการมอบความรักและเอื้ออาทรให้แก่เพื่อนมนุษย์และผู้ที่ด้อยกว่า
จุดกำเนิด The Little Mermaid
เมื่อครั้งที่ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน แต่งนิทานเรื่อง The Little Mermaid ขึ้น เขาตั้งชื่อให้กับนิทานเรื่องนี้ว่า Den lille havfrue ซึ่งถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1837 เป็นภาษาเดนิช โครงเรื่องอิงจากเรื่องราวความรักของเขาเอง ซึ่งมีตอนจบที่ขมขื่นกว่าเหมือนกับเวอร์ชัน Disney ที่เราคุ้นเคย มีการบันทึกไว้ว่า ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซนมีแนวโน้มจะเป็นผู้ที่ฝักใฝ่เพศเดียวกัน เพราะมีการค้นพบจดหมายที่เขาเขียนถึงเพื่อนของเขาหลายฉบับที่ไม่ได้ถูกส่งออกไป จดหมายพรรณนาถึงความรักและความโหยหาของเขาต่อชายคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกของผู้อุปถัมภ์ของแอนเดอร์เซนเอง ชายคนนี้ลงเอยแต่งงานกับหญิงสาวตามความต้องการของครอบครัว แอนเดอร์เซนเสียใจมากและไม่นานเขาก็ได้แต่งนิทานเรื่อง The Little Mermaid หรือ นางเงือกน้อย ขึ้นมาเพื่อเล่าถึงจากความรักอันน่าเศร้าที่ไม่สมหวังของเขาเอง
The Little Mermaid เวอร์ชันต้นฉบับของแอนเดอร์เซน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีนางเงือกน้อยนางหนึ่งอาศัยอยู่ในอาณาจักรใต้ทะเลที่พ่อของเธอเป็นผู้ปกครองดูแลอยู่ เธอมีพี่สาวทั้งหมด 5 คน และเธอเป็นน้องคนสุดท้อง ที่เมืองบาดาลของเธอมีกฎอยู่ว่า เมื่อเงือกมีอายุ 15 ปี จะสามารถว่ายน้ำขึ้นไปบนผิวน้ำเพื่อดูโลกมนุษย์ได้ นางเงือกน้อยก็ได้แต่ฟังเรื่องราวจากพี่สาวของเธอและตั้งตารอคอยจนเธออายุครบ 15 ปีเพื่อที่จะได้ว่ายน้ำขึ้นไปดูโลกมนุษย์ที่เหล่าพี่สาวของเธอบรรยายถึง และแล้วเวลาของเธอก็มาถึง
เธอว่ายสู่ผิวน้ำและได้พบกับเจ้าชายรูปงามพระองค์หนึ่งที่กำลังฉลองงานวันเกิดของเขาอยู่บนเรือลำหนึ่ง เธอตกหลุมรักเจ้าชายตั้งแต่แรกพบ แต่โชคร้ายที่จู่ ๆ ก็เกิดพายุขึ้นกะทันหันและทำให้เรือของเจ้าชายอับปรางลง เมื่อเงือกน้อยเห็นเจ้าชายกำลังจะจมน้ำเธอจึงได้รีบช่วยชีวิตของเขาไว้ และพาร่างอันไร้สติเจ้าชายไปยังฝั่ง จนกระทั่งมีหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งได้เข้าใกล้ เงือกน้อยตกใจกระโดดลงน้ำเพื่อไม่ให้หญิงสาวผู้นั่นเห็นเธอ และเมื่อเจ้าชายตื่นขึ้นมา เขาก็คิดว่าหญิงสาวคนนี้เป็นผู้ช่วยชีวิตพระองค์เอาไว้
นางเงือกน้อยกลับลงไปใต้ทะเลและพูดคุยเกี่ยวกับมนุษย์กับเงือกชราผู้เป็นย่าของเธอ เงือกชราบอกเธอว่า มนุษย์นั้นมีอายุขัยไม่ยืนยาวนานเท่าเหล่าเงือกแต่เมื่อพวกเขาตายจากไปจิตวิญญาณของเขาจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ต่างจากเงือกที่เมื่อสิ้นอายุขัยร่างกายก็จะสลายกลายเป็นฟองคลื่นทะเล
ได้ยินดังนั้นด้วยความที่นางเงือกน้อยโหยหาในตัวเจ้าชายและจิตวิญญาณที่เป็นอมตะ เธอจึงไปหาแม่มดแห่งท้องทะเล แม่มดยื่นขอตกลงว่า เธอจะให้ยาวิเศษที่จะเปลี่ยนนางเงือกให้กลายเป็นมนุษย์ แต่จะต้องแลกกับเสียงของนางเงือกเท่านั้น เพราะว่ากันเสียงของชาวเงือกคือเสียงที่ไพเราะที่สุดในโลก
แม่มดยังบอกอีกว่า เมื่อเธอกลายเป็นมนุษย์แล้ว เธอจะไม่สามารถกลับสู่ทะเลได้ ทุกย่างก้าวของเธอจะรู้สึกเหมือนกับกำลังเดินอยู่บนคมมีด และเธอจะได้รับวิญญาณอมตะก็ต่อเมื่อเธอได้รับความรักจากเจ้าชายและแต่งงานกับเขาเท่านั้น หากเจ้าชายไม่รักเธอ และแต่งงานกับหญิงอื่น ในรุ่งเช้าของวันแรกหลังจากงานวิวาห์ เธอจะตายด้วยหัวใจที่แตกสลายและกลายเป็นฟองคลื่นตลอดกาล
ด้วยความโหยหาและความทะเยอทะยาน นางเงือกน้อยทำข้อตกลงกับแม่มดเพื่อที่จะได้เจอชายที่เธอหลงรักและได้ใช้ชีวิตอย่างมนุษย์คนนึง เธอว่ายขึ้นไปที่ชายฝั่งใกล้ปราสาทและดื่มยาซึ่งทำให้เธอหมดสติไป
เมื่อเจ้าชายก็ได้พบเธอ เขาก็หลงใหลในความงามของเธอ แม้ว่าเธอจะพูดไม่ได้ พระองค์รู้สึกเอ็นดูและได้พาเธอมาอยู่ที่พระราชวัง เขาชอบเล่นกับเธอ ชอบเต้นรำกับเธอ และเธอก็ไม่เคยปฏิเสธถึงแม้จะต้องเธอจะต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่ก้าวเท่าลงบนพื้น เพราะเธอหวังว่าวันหนึ่งเจ้าชายจะรักเธอและแต่งงานกับเธอ
แต่เขาไม่เคยรักเธอเลย มิหน้ำซ้ำเขายังตกหลุมรักเจ้าหญิงจากอาณาจักรใกล้เคียงและตกลงใจจะแต่งงานกับเจ้าหญิงองค์นั้น พอเงือกน้อยรู้เข้า เธอก็ตรอมใจ แต่เหล่าพี่สาวของเธอก็มาช่วยเธอไว้ พวกเธอได้แม่มดและยอมแลกเส้นผมของพวกเธอกับกริชเล่มหนึ่ง เพียงเงือกน้อยฆ่าเจ้าชายด้วยกริชเล่มนี้แล้วนำเลือดของเจ้าชายมาอาบขา เธอจะได้กลับไปเป็นนางเงือกและอยู่ร่วมกับครอบครัวอีกครั้ง
แน่นอนว่านางเงือกน้อยทำใจฆ่าคนที่เธอรักไม่ได้ เธอตัดสินใจยอมรับชะตากรรมของตัวเอง เมื่อเช้าวันวิวหา์มาถึง เธอกระโดดลงสู่ก้นทะเล รอเวลาที่ตัวเองจะสลายกลายเป็นฟองคลื่ แต่ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ เธอจึงได้กลายเป็นธิดาแห่งสายลมและต้องทำความดีอีก 300 ปี เพื่อรับจิตวิญญาณอันเป็นอมตะดังเช่นมนุษย์
เธอว่ายสู่ผิวน้ำและได้พบกับเจ้าชายรูปงามพระองค์หนึ่งที่กำลังฉลองงานวันเกิดของเขาอยู่บนเรือลำหนึ่ง เธอตกหลุมรักเจ้าชายตั้งแต่แรกพบ แต่โชคร้ายที่จู่ ๆ ก็เกิดพายุขึ้นกะทันหันและทำให้เรือของเจ้าชายอับปรางลง เมื่อเงือกน้อยเห็นเจ้าชายกำลังจะจมน้ำเธอจึงได้รีบช่วยชีวิตของเขาไว้ และพาร่างอันไร้สติเจ้าชายไปยังฝั่ง จนกระทั่งมีหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งได้เข้าใกล้ เงือกน้อยตกใจกระโดดลงน้ำเพื่อไม่ให้หญิงสาวผู้นั่นเห็นเธอ และเมื่อเจ้าชายตื่นขึ้นมา เขาก็คิดว่าหญิงสาวคนนี้เป็นผู้ช่วยชีวิตพระองค์เอาไว้
นางเงือกน้อยกลับลงไปใต้ทะเลและพูดคุยเกี่ยวกับมนุษย์กับเงือกชราผู้เป็นย่าของเธอ เงือกชราบอกเธอว่า มนุษย์นั้นมีอายุขัยไม่ยืนยาวนานเท่าเหล่าเงือกแต่เมื่อพวกเขาตายจากไปจิตวิญญาณของเขาจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ต่างจากเงือกที่เมื่อสิ้นอายุขัยร่างกายก็จะสลายกลายเป็นฟองคลื่นทะเล
ได้ยินดังนั้นด้วยความที่นางเงือกน้อยโหยหาในตัวเจ้าชายและจิตวิญญาณที่เป็นอมตะ เธอจึงไปหาแม่มดแห่งท้องทะเล แม่มดยื่นขอตกลงว่า เธอจะให้ยาวิเศษที่จะเปลี่ยนนางเงือกให้กลายเป็นมนุษย์ แต่จะต้องแลกกับเสียงของนางเงือกเท่านั้น เพราะว่ากันเสียงของชาวเงือกคือเสียงที่ไพเราะที่สุดในโลก
แม่มดยังบอกอีกว่า เมื่อเธอกลายเป็นมนุษย์แล้ว เธอจะไม่สามารถกลับสู่ทะเลได้ ทุกย่างก้าวของเธอจะรู้สึกเหมือนกับกำลังเดินอยู่บนคมมีด และเธอจะได้รับวิญญาณอมตะก็ต่อเมื่อเธอได้รับความรักจากเจ้าชายและแต่งงานกับเขาเท่านั้น หากเจ้าชายไม่รักเธอ และแต่งงานกับหญิงอื่น ในรุ่งเช้าของวันแรกหลังจากงานวิวาห์ เธอจะตายด้วยหัวใจที่แตกสลายและกลายเป็นฟองคลื่นตลอดกาล
ด้วยความโหยหาและความทะเยอทะยาน นางเงือกน้อยทำข้อตกลงกับแม่มดเพื่อที่จะได้เจอชายที่เธอหลงรักและได้ใช้ชีวิตอย่างมนุษย์คนนึง เธอว่ายขึ้นไปที่ชายฝั่งใกล้ปราสาทและดื่มยาซึ่งทำให้เธอหมดสติไป
เมื่อเจ้าชายก็ได้พบเธอ เขาก็หลงใหลในความงามของเธอ แม้ว่าเธอจะพูดไม่ได้ พระองค์รู้สึกเอ็นดูและได้พาเธอมาอยู่ที่พระราชวัง เขาชอบเล่นกับเธอ ชอบเต้นรำกับเธอ และเธอก็ไม่เคยปฏิเสธถึงแม้จะต้องเธอจะต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่ก้าวเท่าลงบนพื้น เพราะเธอหวังว่าวันหนึ่งเจ้าชายจะรักเธอและแต่งงานกับเธอ
แต่เขาไม่เคยรักเธอเลย มิหน้ำซ้ำเขายังตกหลุมรักเจ้าหญิงจากอาณาจักรใกล้เคียงและตกลงใจจะแต่งงานกับเจ้าหญิงองค์นั้น พอเงือกน้อยรู้เข้า เธอก็ตรอมใจ แต่เหล่าพี่สาวของเธอก็มาช่วยเธอไว้ พวกเธอได้แม่มดและยอมแลกเส้นผมของพวกเธอกับกริชเล่มหนึ่ง เพียงเงือกน้อยฆ่าเจ้าชายด้วยกริชเล่มนี้แล้วนำเลือดของเจ้าชายมาอาบขา เธอจะได้กลับไปเป็นนางเงือกและอยู่ร่วมกับครอบครัวอีกครั้ง
แน่นอนว่านางเงือกน้อยทำใจฆ่าคนที่เธอรักไม่ได้ เธอตัดสินใจยอมรับชะตากรรมของตัวเอง เมื่อเช้าวันวิวหา์มาถึง เธอกระโดดลงสู่ก้นทะเล รอเวลาที่ตัวเองจะสลายกลายเป็นฟองคลื่ แต่ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ เธอจึงได้กลายเป็นธิดาแห่งสายลมและต้องทำความดีอีก 300 ปี เพื่อรับจิตวิญญาณอันเป็นอมตะดังเช่นมนุษย์
บทส่งท้าย
บทความล่าสุด
ผู้สอนของ ikonclass
เรียนรู้จากไอคอนแนวหน้าของประเทศไทย
ผู้สอนของเราเป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในวงการนับไม่ถ้วน ในบทเรียนของ IkonClass คุณจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้สอนที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน